Solvent base and Alkaline Cleaning

น้ำยาทำความสะอาดอุตสาหกรรม: Solvent Base และ Alkaline Cleaning ต่างกันอย่างไร?

น้ำยาทำความสะอาดอุตสาหกรรม ถือเป็นหัวใจสำคัญในการรักษาความสะอาดและยืดอายุการใช้งานของเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ ซึ่งประเภทของน้ำยาที่ใช้บ่อยมีอยู่ 2 ประเภทหลัก ได้แก่ Solvent Base และ Alkaline Cleaning โดยแต่ละประเภทมีคุณสมบัติ ข้อดี และข้อจำกัดที่แตกต่างกัน บทความนี้จะช่วยให้คุณเลือกใช้น้ำยาที่เหมาะสมกับงานได้อย่างถูกต้อง


น้ำยาทำความสะอาดอุตสาหกรรมประเภท Solvent Base คืออะไร?

Solvent Base คือ น้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมหลักเป็นสารละลายอินทรีย์ (Organic Solvent) เช่น ไอโซโพรพานอล (IPA), อะซิโตน (Acetone) หรือไฮโดรคาร์บอน (Hydrocarbon)

คุณสมบัติของ Solvent Base:

  • ละลายคราบน้ำมัน จาระบี และไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • แห้งไว ไม่ทิ้งคราบตกค้าง

  • เหมาะสำหรับงานอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์, ยานยนต์, และอุตสาหกรรมแม่พิมพ์

ข้อดี:

  • ทำความสะอาดได้รวดเร็ว

  • ลดโอกาสเกิดความชื้นสะสม

  • ใช้ในกระบวนการที่ต้องการความสะอาดระดับสูง

ข้อควรระวัง:

  • ต้องใช้งานในพื้นที่มีการระบายอากาศดี

  • บางชนิดติดไฟได้ง่าย ต้องเก็บรักษาอย่างระมัดระวัง


Alkaline Cleaning คืออะไร?

Alkaline Cleaning คือ น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์ด่าง (pH สูง) เช่น โซเดียมไฮดรอกไซด์ (Sodium Hydroxide) หรือโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ (Potassium Hydroxide) เหมาะสำหรับขจัดคราบไขมันหนัก คราบโปรตีน และสิ่งสกปรกอนินทรีย์

คุณสมบัติของน้ำยา Alkaline Cleaning:

  • มีประสิทธิภาพสูงในการขจัดคราบไขมันและสิ่งปนเปื้อนหนาแน่น

  • นิยมใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร, เครื่องดื่ม, และการผลิตโลหะ

ข้อดี:

  • ล้างคราบฝังลึกได้ดี

  • ช่วยขจัดคราบสนิมบางประเภท

  • ปลอดภัยกว่าสารทำละลายบางชนิดเมื่อใช้อย่างเหมาะสม

ข้อควรระวัง:

  • อาจก่อให้เกิดการกัดกร่อนพื้นผิวโลหะบางชนิด

  • ต้องควบคุมความเข้มข้นและเวลาในการทำความสะอาดอย่างเหมาะสม


เปรียบเทียบ Solvent Base กับ Alkaline Cleaning แบบไหนเหมาะกับงานคุณ?

 

คุณสมบัติ Solvent Base Alkaline Cleaning
คราบที่ขจัด น้ำมัน, จาระบี, ไขมัน คราบไขมันหนาแน่น, คราบโปรตีน
ความรวดเร็วในการแห้ง แห้งเร็ว แห้งช้ากว่า ต้องล้างน้ำซ้ำหลังทำความสะอาด
ความปลอดภัย ไวไฟ ต้องระวัง อาจกัดกร่อนพื้นผิวบางชนิด
งานที่เหมาะสม อิเล็กทรอนิกส์, ยานยนต์, แม่พิมพ์ อาหาร, เครื่องดื่ม, โรงงานโลหะ

การเลือกน้ำยาทำความสะอาดอุตสาหกรรมที่เหมาะสม

  1. ประเมินประเภทของคราบสกปรก:

    • คราบน้ำมันและจาระบี = ใช้ Solvent Base

    • คราบโปรตีนหรือคราบหนาแน่น = ใช้ Alkaline Cleaning

  2. พิจารณาความปลอดภัยในการใช้งาน:

    • หากทำงานในพื้นที่อับ ควรหลีกเลี่ยงสารไวไฟ

  3. ประเมินผลกระทบต่อพื้นผิววัสดุ:

    • โลหะบางชนิดอาจถูกกัดกร่อนด้วยสารด่างสูง


สรุป

การเลือก น้ำยาทำความสะอาดอุตสาหกรรม ที่เหมาะสมระหว่าง Solvent Base และ Alkaline Cleaning ขึ้นอยู่กับประเภทของคราบ ลักษณะของพื้นผิว และความต้องการในการใช้งาน หากเลือกใช้อย่างถูกต้อง จะช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องจักร และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างมาก

หากคุณกำลังมองหาน้ำยาทำความสะอาดคุณภาพสูงสำหรับงานอุตสาหกรรม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ Baobao Thailand เรายินดีให้คำแนะนำและบริการอย่างมืออาชีพ

Solvent Cleaning (ตัวทำละลาย)

มีประโยชน์หลายประการ เช่น:

  • การทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพ: Solvent (โซลเว้นท์)สามารถขจัดคราบไขมัน น้ำมัน และสิ่งสกปรกที่ยากต่อการทำความสะอาดได้ดี
  • การใช้งานที่หลากหลาย: Solvent cleaning สามารถใช้ได้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และการผลิต
  • การนำกลับมาใช้ใหม่ได้: หลายชนิดของ solvent (โซลเว้นท์) สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ทำให้ลดค่าใช้จ่ายและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
  • การเข้าถึงพื้นที่แคบ: Solvent (โซเว้นท์) สามารถเข้าถึงพื้นที่แคบหรือซับซ้อนได้ดี ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการทำความสะอาดชิ้นงานที่มีรายละเอียดสูง
  • การแห้งเร็ว: Solvent (โซลเว้นท์) บางชนิดจะแห้งเร็ว ทำให้การทำงานต่อได้อย่างรวดเร็ว

Alcohol (แอลกอฮอล์)

Isopropyl alcohol (IPA) ไอโซโพรพิล แอลกอฮอล์ เป็นสารที่มีหลายหน้าที่ในการใช้งานทั้งในภูมิปัญญาทั่วไปและในสาขาต่างๆ เช่น เวชศาสตร์ วิทยาศาสตร์เคมี และเทคโนโลยีต่างๆ ต่อไปนี้คือหน้าที่สำคัญของ Isopropyl Alcohol:

  • ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ: IPA เป็นสารที่ใช้ในการทำความสะอาดผิวหนังและพื้นผิวต่างๆ โดยเฉพาะในงานที่ต้องการล้างออกจากเชื้อโรคหรือเชื้อรา เช่น ในโรงพยาบาลหรือกายในอุตสาหกรรบอาหาร
  • ใช้เป็นสารลดแรงเสียดสี: IPA สามารถใช้ลดความเข้มข้นของสีทาหรือสีพิมพ์ได้ โดยเฉพาะในการผลิตของพิมพ์และภาพถ่าย
  • นำมาใช้เป็นล้างแผล: IPA เป็นส่วนผลมในสารล้างแผลที่ใช้ในการทำความสะอาดและล้างแผลเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  • ใช้เป็นสารหล่อลื่น: IPA มีความละลายที่ดีและสามารถใช้ในกระบวนการหล่อลื่นต่างๆ เช่น ในอุตสาหกรรมการผลิตพลาสติก
  • นำมาใช้ในการทำเป็นอุ่นน้ำ: IPA สามารถใช้เป็นสารที่เตรียมน้ำแข็งและน้ำหล่อลื่นในการทำความเย็น
  • ใช้ในเทคโนโลยชิ้นส่วนอีเล็กกรอนิกส์: IPA เป็นสารที่ใช้ในการล้างหน้าจอและครื่องมืออีเล็กกรอปีกส์เพื่อป้องกันความขึ้นและเกิดความแมลงภัย

สรุปได้ว่า Isopropyl Alcohol (IPA) ไอโซโพรพิล แอลกอฮอล์ เป็นสารที่มีหลายใช้งานและหน้าที่หลากหลายในชีวิตประว่าวันและในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะในด้านความสะอาดและฆ่าเชื้อที่นี่ผลมากต่อ สุขภาพและสภาพแวดล้อมด้วย

Thinner (ทินเนอร์)

ทินเนอร์ (Tinner) เป็นสารละลายที่ใช้ในการล้างหรือละลายสารต่าง ๆ ที่เป็นไขมันหรือน้ำมัน, เช่น สีทา, สีน้ำมัน, หรือคาโรไลน่า โดยทั่วไปจะประกอบด้วยส่วนประกอบที่สามารถละลายได้ เช่น แอลกอฮอล์, อะซิเทน, และน้ำ ซึ่งทินเนอร์มักถูกใช้ในงานฝ่ายช่างหลอดเหล็กหรืองานช่างสีที่ต้องการล้างหลอดเหล็กหรืออุปกรณ์ที่มีการใช้สีน้ำมันออกจากพื้นผิวเพื่อทำความสะอาดหรือเตรียมพื้นผิวก่อนการทำงานต่อไป

Chlorinated Solvent (ตัวทำละลายคลอรีน)

Chlorinated solvents เป็นสารละลายที่มีการผสมคลอรีนเข้าไป เพื่อให้มีคุณสมบัติพิเศษที่ไม่พบในสารละลายทั่วไป หน้าที่หลักของ chlorinated solvents ได้แก่:

  • การละลายสารไขมัน: สารละลายที่มีคลอรีนเข้าไปมีความสามารถในการละลายสารไขมันได้ดี ทำให้เป็นที่นิยมในการใช้ในการทำความสะอาดและล้างอุปกรณ์ที่มีสารไขมันหรือความเป็นพิษทางเคมีอื่นๆ
  • การล้างอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์: ชนิดหนึ่งของ chlorinated solvents เช่น trichloroethylene ใช้ในการล้างอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากมีความสามารถในการละลายเชื้อโรคและสิ่งสกปรกต่างๆ ได้ดี
  • การใช้ล้างสี: บางชนิดของ chlorinated solvents ใช้เป็นสารล้างสี เพื่อล้างสีที่มีความเข้มข้นสูงหรือสีที่มีคอลอร์ที่สูงกว่า
  • การใช้ในงานอุตสาหกรรม: สารละลายที่มีคลอรีนเข้าไปมีการใช้ในงานอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า การผลิตเคมี เป็นต้น

การใช้ chlorinated solvents ต้องมีความระมัดระวัง เนื่องจากบางชนิดอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม และมักมีการควบคุมการใช้งานอย่างเคร่งครัดในภาคของสุขภาพและความปลอดภัย

Ester (ตัวทำละลายที่มาจากธรรมชาติ)

Ester solvents (เอสเทอร์) เป็นสารละลายที่มีการผสมประกอบจากอีสเตอร์ (ester) ซึ่งมีหน้าที่หลากหลายและใช้งานได้ในหลายองค์ประกอบต่างๆ ดังนี้:

  • การละลายสารไขมันและไขมัน: Ester solvents มักถูกใช้ในการละลายและทำความสะอาดสารไขมันและไขมันที่มีความหนืด ซึ่งมีประโยชน์ในการล้างเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ที่มีสารไขมันติดอยู่
  • การใช้เป็นสารล้าง: เนื่องจากมีความสามารถในการละลายและทำความสะอาดสารต่างๆ ทำให้ Ester solvents เหมาะสมในการใช้เป็นสารล้างในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การผลิตสารเคมี, อุตสาหกรรมสีและหล่อลื่น
  • การใช้ในเครื่องสำอาง: บางชนิดของ Ester solvents มีคุณสมบัติที่เหมาะสมในการใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เช่น ครีมบำรุงผิวหน้า, ลิปบาล์ม, หรือน้ำหอม
  • การใช้ในวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรม: ในงานวิจัยและอุตสาหกรรม เช่น การทดลองทางเคมี หรือการผลิตเครื่องประดับและผลิตภัณฑ์พลาสติกที่สามารถใช้ Ester solvents เป็นสารละลายได้

Solvent Non-Flammable  (ตัวทำละลายติดไฟยากหรือไม่ติดไฟ)

น้ำยาทำความสะอาดที่ไม่ติดไฟ เป็นสารแบบระเหยช้าติดไฟยาก และไม่ติดไฟระเหยไว ใช้ล้างคราบน้ำมันทุกชนิดที่ติดอยู่กับชิ้นงานโลหะออกได้ดี ใช้ได้กับโลหะทุกชนิด เช่น อลูมีเนียม ทองแดง ทองเหลือง เหล็ก สแตนเลส และแม่พิมพ์ทุกชนิด เป็นสารที่อยู่ในกลุ่ม ISO 1400 ว่าด้วยสิ่งแวดล้อม ไม่มีสารต้องห้าม 101 ชนิด ที่เรียกว่า PFOS ตามมาตรฐาน ยุโรป ไม่มีสารก่อมะเร็ง

Ketone  (ตัวทำละลายเคลือบผิว)

ตัวทำละลายในการเคลือบผิว ใช้เป็นตัวทำละลายในกาว หมึกพิมพ์และอื่นๆ ใช้ในการหล่อขึ้นรูป (Molding articles) และยังใช้เป็นน้ำมันเคลือบเงา หรือใช้ล้างคราบมันบนผิวโลหะ ใช้ในอุตสาหกรรมผลิตสารแม่เหล็ก สีเปรย์ กาว และใช้ในการสกัดวัตถุดิบประกอบอาหาร เป็นต้น

Alkaline Cleaning (น้ำยาทำความสะอาดประเภทด่าง)

น้ำยาทำความสะอาดชนิดด่าง น้ำยาล้างคราบต่างๆ คราบแก๊ส คราบฝังแน่น คราบ Flux คราบน้ำมัน มีประสิทธิภาพสูงในการทำความสะอาด ทำให้ทุกพื้นผิวสดใส แวววาว สามารถยับยั้งเชื้อรา แบคทีเรีย ไม่ก่อให้เกิดการสึกกร่อนของพื้นผิว ไม่มีฟอง ไม่ติดไฟ ไม่เป็นอัตรายกับผิวหนัง สามารถล้างออกด้วยน้ำเปล่า เหมาะสำหรับโรงง่านอุตสาหกรรมทุกประเภท โรงแรม ปั้มน้ำมัน อู่ซ่อมรถ และทุกสถานที่ที่ต้องการทำความสะอาด เช่น

  • คราบโคน
  • คราบน้ำมัน
  • คราบไขมัน
  • คราบเขม่าจากปล่องควันทำอาหาร
  • โรงงานอุตสาหกรรมคราบสกปรกติดฝังแน่นต่างๆ เป็นต้น

LAP CHEMICAL GRADE

  • Analytical Grade (AR)
    หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เกรดวิเคราะห์” เป็นสารเคมีที่มีความบริสุทธิ์สูงและมีคุณภาพสูงสุดในหมวดหมู่ของสารเคมีสำหรับห้องปฏิบัติการ เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความแม่นยำและความน่าเชื่อถือสูง เช่น การวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ การทดลองที่เกี่ยวข้องกับการตรวจวัดเชิงปริมาณ และการควบคุมคุณภาพในอุตสาหกรรม
  • ANHYDROUS GRADE (AH)
    หมายถึงเกรดของสารเคมีหรือผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในรูปแบบ ปราศจากน้ำ หรือมีปริมาณน้ำต่ำมากจนแทบไม่มีอยู่เลย สารเคมีในเกรดนี้มักใช้ในงานที่ต้องการความบริสุทธิ์สูงหรือในกระบวนการที่ความชื้นอาจส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์ เช่นในอุตสาหกรรมยา เคมี หรืออุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
  • PHARMA GRADE (BP)
    หมายถึงเกรดของสารเคมีหรือวัตถุดิบที่ได้รับการผลิตและควบคุมให้มีคุณภาพตามมาตรฐานของ British Pharmacopoeia (BP) ซึ่งเป็นมาตรฐานเภสัชกรรมที่ใช้กำหนดคุณภาพ ความบริสุทธิ์ และความปลอดภัยของวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ยา
  • HEADSPACE GC GRADE (HS)  หมายถึงเกรดของสารเคมีหรือวัตถุดิบที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการใช้งานใน Headspace Gas Chromatography (HS-GC) ซึ่งเป็นเทคนิคในกระบวนการวิเคราะห์ที่ใช้สำหรับการตรวจสอบสารระเหยในตัวอย่างที่เป็นของแข็งหรือของเหลว โดยใช้พื้นที่ว่าง (headspace) เหนือตัวอย่างสำหรับการวิเคราะห์
  • UV-IR GRADE (IR) 
    หมายถึงเกรดของสารเคมีหรือวัสดุที่ได้รับการออกแบบและควบคุมเพื่อใช้ในงานที่เกี่ยวข้องกับ การวิเคราะห์ด้วยแสงอัลตราไวโอเลต (UV) และ แสงอินฟราเรด (IR) โดยเฉพาะ ซึ่งมักใช้ในงานวิเคราะห์เชิงสเปกโทรสโกปี (Spectroscopy) สำหรับการศึกษาคุณสมบัติของสารในช่วงความยาวคลื่น UV และ IR
  • HIGH PERFORMANCE LIQUID CHROMATOGRAPHY GRADE (LC)
    หมายถึงเกรดของสารเคมีหรือตัวทำละลายที่ได้รับการผลิตและควบคุมคุณภาพให้เหมาะสำหรับการใช้งานใน High-Performance Liquid Chromatography (HPLC) ซึ่งเป็นเทคนิควิเคราะห์ที่ใช้ในห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจสอบและแยกสารประกอบต่างๆ ในตัวอย่าง
  • PESTICIDE GRADE (PC)
    หมายถึงเกรดของสารเคมีหรือตัวทำละลายที่ได้รับการผลิตและควบคุมคุณภาพให้เหมาะสำหรับการใช้งานในการวิเคราะห์สารตกค้างของยาฆ่าแมลง (Pesticides) โดยเฉพาะในงานวิจัยและการตรวจสอบทางด้านสิ่งแวดล้อม อาหาร และน้ำ
  • PURGE & TRAP GRADE (PT) 
    หมายถึงเกรดของสารเคมีหรือตัวทำละลายที่ผลิตและควบคุมคุณภาพเพื่อใช้งานในเทคนิค Purge and Trap (PT) ซึ่งเป็นเทคนิคการวิเคราะห์สารระเหย (Volatile Organic Compounds: VOCs) ในตัวอย่างน้ำ ดิน หรืออากาศ โดยวิธีการดึงสารระเหยออกจากตัวอย่าง (purge) และดักจับไว้ (trap) เพื่อส่งเข้าสู่เครื่องมือวิเคราะห์ เช่น Gas Chromatography (GC) หรือ GC-MS
  • RCI PREMIUM GRADE (RP)
    หมายถึงเกรดของผลิตภัณฑ์หรือวัตถุดิบที่ผ่านการควบคุมและตรวจสอบคุณภาพอย่างเข้มงวดตามมาตรฐานของ RCI (Reagent Chemical Industry) โดยเฉพาะในระดับ “Premium Grade” ซึ่งเป็นระดับที่เน้นความบริสุทธิ์สูงและความสม่ำเสมอในคุณภาพ เหมาะสำหรับการใช้งานเฉพาะที่ต้องการความแม่นยำสูงในอุตสาหกรรมหรือห้องปฏิบัติการ
  • GRADIENT GRADE: SUPERGRADIENT Grade (SG) 
    หมายถึงเกรดของสารเคมีหรือตัวทำละลายที่ผลิตขึ้นเพื่อรองรับการใช้งานในระบบ High-Performance Liquid Chromatography (HPLC) โดยเฉพาะในโหมด Gradient Elution ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของตัวทำละลายในระหว่างการวิเคราะห์อย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงการแยกสารประกอบในตัวอย่าง
  • LIQUID CHROMATOGRAPHY-MASS SPECTROMETRY GRADE (LM)
    หมายถึงเกรดของสารเคมีหรือตัวทำละลายที่ได้รับการออกแบบและควบคุมคุณภาพเฉพาะสำหรับใช้งานในระบบ Liquid Chromatography-Mass Spectrometry (LC-MS) ซึ่งเป็นเทคนิควิเคราะห์ที่ใช้แยกและตรวจสอบสารประกอบในตัวอย่างที่ซับซ้อน โดยเน้นความไวและความแม่นยำสูงมาก
  • ELECTROPURE GRADE (EP) 
    หมายถึงเกรดของสารเคมีหรือตัวทำละลายที่ได้รับการออกแบบและผลิตให้มีความบริสุทธิ์สูงมาก โดยเฉพาะสำหรับการใช้งานในกระบวนการทางไฟฟ้าเคมี (Electrochemistry) หรือกระบวนการที่ต้องการลดปริมาณสิ่งเจือปนที่อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของอุปกรณ์หรือการทดลอง
  • ELECTRO EXTRA GRADE (EX) 
    หมายถึงเกรดของสารเคมีหรือตัวทำละลายที่ได้รับการออกแบบมาเฉพาะสำหรับการใช้งานใน กระบวนการไฟฟ้าเคมี (Electrochemistry) ที่ต้องการความบริสุทธิ์สูงมากเป็นพิเศษและมีคุณสมบัติทางเคมีที่เหมาะสมสำหรับการวิเคราะห์หรือการทดลองที่ไวต่อการปนเปื้อนหรือความไม่เสถียรของระบบ
  • SEMIGRADE (SM) 
    หมายถึงเกรดของสารเคมีหรือตัวทำละลายที่ได้รับการผลิตและควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อรองรับการใช้งานในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor Industry) โดยเฉพาะ เน้นความบริสุทธิ์สูงและความสม่ำเสมอ เพื่อให้เหมาะสมกับกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนและต้องการความแม่นยำสูง เช่น การผลิตวงจรรวม (Integrated Circuits) และชิปประมวลผล
  • VLSI GRADE (VL)
    หมายถึงเกรดของสารเคมีหรือตัวทำละลายที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการใช้งานในกระบวนการผลิต VLSI (Very Large Scale Integration) ซึ่งเป็นกระบวนการสร้างวงจรรวม (Integrated Circuits) ที่มีจำนวนทรานซิสเตอร์หรือองค์ประกอบอื่นๆ ในระดับที่ซับซ้อนและหนาแน่นมาก เหมาะสำหรับการผลิตชิปที่มีความละเอียดสูง เช่น ชิปประมวลผลและหน่วยความจำในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
  • EXTROPURE GRADE (XP) 
    หมายถึงเกรดของสารเคมีหรือตัวทำละลายที่มีความบริสุทธิ์สูงมาก ซึ่งออกแบบมาเฉพาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการลดสิ่งเจือปนในระดับต่ำสุด เช่น ในอุตสาหกรรมขั้นสูงหรือกระบวนการวิจัยที่ไวต่อการปนเปื้อน โดยเน้นความเสถียร ความสม่ำเสมอ และความเหมาะสมสำหรับการวิเคราะห์หรือกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่แม่นยำ

สนใจเลือกน้ำยาทำความสะอาดอุตสาหกรรมที่เหมาะกับงานของคุณ?

💬 ติดต่อทีมผู้เชี่ยวชาญของเราเพื่อขอคำแนะนำฟรี!
📞 โทร: 02-8060918
📩 อีเมล: cs@baobaothailand.co.th
🌐 หรือเยี่ยมชมเพิ่มเติมได้ที่ Baobao Thailand